ธรรมะสุขสันต์วันอาทิตย์ ครั้งที่ 2

ธรรมสวัสดี ชาววัดตรีวิสุทธิธรรมอีกครั้งค่า

 

ผ่านไปแล้วกับกิจกรรม ธรรมะสุขสันต์วันอาทิตย์ ครั้งที่ 2 ครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเช่นเคย

 

 

 

เวลา 10.45 กิจกรรมปล่อยปลาก็ได้เริ่มขึ้น คราวนี้ สัตว์ที่ถูกนำมาปล่อยบางชนิด เช่น ปลาหมอ ปลาดุก มีผู้มากระซิบให้ได้ยินว่า "ซื้อมา ก่อนจะถูกนำไปฆ่า" ซึ่งถือว่า การปล่อยปลาในครั้งนี้เป็นการช่วยชีวิตสัตว์ไว้ไม่ให้ถูกฆ่า เป็นการให้ทาน ให้ชีวิตสัตว์อย่างแท้จริง นอกจากปลาดุกและปลาช่อนแล้ว คราวนี้ยังมีปลาไหล หลายสิบตัวอยู่ในถัง มีเต่าประมาณ 5 ตัว คอยไต่ออกจากถัง เตรียมตัวรับอิสระเสรีที่กำลังจะมาถึง

 

ระหว่างที่รอพระคุณเจ้ามาทำพิธีถวายสังฆทานปลา ผู้คนมากมายต่างเดินไปยังตู้บริจาคทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์กันอย่างคับคั่ง บ้างเป็นคนแก่ บ้างเป็นคนป่วย บ้างเป็นหนุ่มสาว หรือแม้แต่เด็กน้อยแก้มใสก็ยังใจบุญทำบุญเข้ากองทุนช่วยเหลือชีวิตสัตว์ บริจาคเงินไว้สำหรับซื้อสัตว์เพื่อที่จะนำมาปล่อยคราวหน้า

 

 


 

เมื่อถึงเวลา พระอาจารย์สุวรรณให้เกียรติมาเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่อรับถวายสังฆทานปลา เมื่อท่านเห็นน้ำแห้งขอด จากการที่ปลาทั้งหลายต่างกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่จะถูกนำไปปล่อยจนน้ำกระฉอก พระอาจารย์สุวรรณจึงให้ผู้คนช่วยกันเติมน้ำให้เหล่าปลาน้อยทั้งหลาย ให้ว่ายกันอย่างสบายขึ้น ระหว่างนี้ก็ใช้สายสิญจน์พาดไปตามถังใส่ปลา เพื่อนำขึ้นไปถวายเป็นสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์

 

พระอาจารย์สุวรรณได้เทศน์ถึง อานิสงค์ของการปล่อยชีวิตสัตว์ให้เป็นอิสระ และกล่าวว่า ปลาที่ได้รับเป็นสังฆทานแล้วนี้ เป็นปลาที่จะไม่ถูกนำจับ นำมาฆ่าหรือนำมาทานได้อีกต่อไปเพราะถือเป็นของสงฆ์แล้ว

 

 

 

หลังจากพระอาจารย์สุวรรณเทศน์เสร็จ ทุกฝ่ายต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือ หยิบถัง กะละมังที่บรรจุสัตว์เล็กสัตว์น้อยเหล่านี้ ไปยังบ่อน้ำหลังอาคารวิทยุ และรอเวลาปล่อยสัตว์ทั้งหลายพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อถึงเวลา พระอาจารย์สุวรรณและพระสงฆ์ จึงเริ่มปล่อยปลา จากนั้นทุกคนได้ช่วยกันปล่อยปลาลงน้ำเบาๆ ช้าๆ บางคนก็จับปลาด้วยมือเปล่าค่อยๆ ปล่อยมันลงน้ำ

 

เพื่อไม่ให้เจ้าปลาเจ็บ บางคนก็ค่อยๆเอาลงน้ำ เพื่อให้ปลาได้ปรับตัวกับสภาพน้ำในสระ ปลาตัวน้อยต่างแหวกว่ายในบ่อน้ำอย่างรื่นเริงที่มันได้รับอิสระอีกครั้ง บางคนถึงกับยิ้มร่า เมื่อเห็นเจ้าปลาน้อยแวะเวียนมาที่ขอบบ่อ ราวกับต้องการกล่าวคำ "ขอบคุณ"ที่ทำให้มันรอดจากกระทะและฟืนไฟ ป้าคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาด้วยความปลื้มปิติว่า "ปกติเคยแต่ปล่อยปลาแก้กรรม ไม่เคยปล่อยปลาเพราะต้องการช่วยปลาให้รอดพ้นจากการฆ่าเลย มาคราวนี้ได้มาร่วมกันช่วยชีวิตปลา รู้สึกดีใจจริงๆค่ะ"

 

 

 


 

หลังจากนั้น หลายคนแยกย้ายกันไปทานข้าว คนอีกกลุ่มที่รู้ข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมนี้ก็ช่วยกันหอบหิ้วอาหารเม็ด สำหรับให้ปลามาถังใหญ่ และตักโปรยโรยให้เจ้าปลาอิ่มหนำสำราญถึงที่ คุณป้าคนหนึ่งได้บอกว่า "ปกติเรากินเขา เราเอาเปรียบเขามาตลอด...มาวันนี้ได้ให้เขาบ้าง ให้ชีวิตใหม่แก่เขาบ้าง ก็ดีนะคะ"

 

 

 

 

เวลาผ่านไปยามเที่ยงวัน ทีมสวดมนต์ นำโดย ชมรมสวดมนต์พิทักษ์ พิทักษ์โลก มารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง กิจกรรมสวดมนต์ได้เริ่มต้นขึ้น พี่คนหนึ่ง หน้าตาสดใส

 

เมื่อสอบถามกันได้ความว่า เพิ่งมาทำกิจกรรมนี้ครั้งแรก เล่าให้เราฟังว่า "ปกติก็สวดมนต์ตลอด ชีวิตส่วนมากจะอยู่ในรถ เพราะฉะนั้น ขึ้นรถทีไรจะเปิดเสียงสวดของวัดแล้วสวดตาม วันหนึ่งๆเราก็จะสวดได้เยอะ" และแนะนำว่า "สำหรับคนที่บอกว่าไม่ค่อยมีเวลา ก็ลองใช้วิธีสวดมนต์ในรถได้ค่ะ" พร้อมกับเสริมว่า "สมัยก่อนเป็นคนไม่ค่อยอยู่นิ่ง สมาธิสั้น แต่ปัจจุบัน สมาธิดีขึ้นมาก อยู่นิ่งได้นานขึ้น" พี่เขาจึงว่า นี่คืออานิสงค์ของการสวดมนต์โดยแท้ วันนี้ทุกคนช่วยกันสวดมนต์อย่างพร้อมเพรียง มีพลัง ระหว่างการสวด ใครมีน้ำ ก็แจกน้ำ ใครมีขนมก็แจกขนม ...ทุกคนต่างได้รับการแจก "น้ำใจ" ให้แก่กันและกันอย่างทั่วถึง

 

 

 

 

การสวดมนต์ในครั้งนี้ จบลงอย่างรวดเร็ว ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนต่างมีสีหน้าชื่นมื่น เพราะได้ทำบุญ ทำจิตให้ผ่องใสด้วยการสวดมนต์กันอย่างถ้วนหน้า ...ก่อนจะพากันลากลับบ้านโดยสวัสดิภาพด้วยหัวใจอิ่มสุขเช่นเคย... แล้วพบกันอีกครั้งในกิจกรรม ธรรมะสุขสันต์วันอาทิตย์ ครั้งที่ 3 ในวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคมนะคะ

 

ธรรมสวัสดีค่ะ